ข้อมูลอุตสาหกรรม
หน้าแรก> ข่าวสาร> ข้อมูลอุตสาหกรรม

เทคนิคการพิมพ์ทั่วไปในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายมีอะไรบ้าง

2025-01-07

เทคนิคการพิมพ์ทั่วไปในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกาย

1. การพิมพ์หน้าจอ (Silk Screen Printing)

วิธีการทำงาน: สีหมึกถูกกดผ่านแม่แบบหรือหน้าจอตาข่ายลงบนเนื้อผ้า

ข้อดี:

ทนทานและสีสันสดใส

เหมาะสำหรับคำสั่งซื้อจำนวนมาก

ทำงานได้ดีบนเนื้อผ้าหลากหลายชนิด

ข้อเสีย:

จำกัดสีที่ใช้ได้น้อยกว่าต่อดีไซน์

ค่าตั้งค่าเริ่มต้นอาจสูงสำหรับการผลิตจำนวนน้อย

2.การพิมพ์แบบ Direct-to-Garment (DTG)

วิธีการทำงาน: เทคโนโลยีหมึกพิมพ์ Inkjet พิมพ์ลงบนผ้าโดยตรง

ข้อดี:

งานพิมพ์คุณภาพสูง รายละเอียดคมชัด พร้อมสีไม่จำกัด

ไม่มีค่าตั้งค่าเริ่มต้น เหมาะสำหรับการสั่งซื้อจำนวนน้อยหรือการออกแบบตามสั่ง

ข้อเสีย:

ความเร็วในการผลิตช้ากว่า

ทำงานได้ดีที่สุดกับผ้าฝ้ายหรือผ้าที่มีส่วนผสมของฝ้ายสูง

3.การพิมพ์แบบ Heat Transfer

วิธีการทำงาน: ดีไซน์จะถูกพิมพ์ลงบนกระดาษทรานสเฟอร์และนำไปใช้กับผ้าโดยใช้ความร้อนและความกดอากาศ

ข้อดี:

สีสันสดใสและดีไซน์คมชัด

เหมาะสำหรับจำนวนน้อยหรือของที่ระลึกส่วนตัว

ข้อเสีย:

อาจแตกร้าวหรือซีดจางได้เมื่อซักบ่อยครั้ง

ทนทานน้อยกว่าการพิมพ์หน้าจอ

4. การพิมพ์ซับลิเมชัน

วิธีการทำงาน: ความร้อนเปลี่ยนหมึกให้กลายเป็นแก๊ส ซึ่งจะประสานกับผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าเคลือบโพลิเมอร์

ข้อดี:

สร้างดีไซน์สีสันสดใส แบบเต็มสี และครอบคลุมทั้งหมด

การพิมพ์แบบถาวรที่ไม่แตกร้าวหรือลอกออก

ข้อเสีย:

จำกัดเฉพาะผ้าโพลีเอสเตอร์เท่านั้น

ไม่เหมาะสำหรับเสื้อผ้าสีเข้ม

5.การถ่ายเทความร้อนด้วยวินิล

วิธีการทำงาน: ออกแบบจะถูกตัดออกจากแผ่นวินิลและใช้ความร้อนกดลงบนผ้า

ข้อดี:

ทนทานและเหมาะสำหรับการออกแบบสีเดียวที่มีความโดดเด่น

เหมาะสำหรับตัวหนังสือและโลโก้

ข้อเสีย:

ไม่เหมาะสำหรับการออกแบบที่ซับซ้อนหรือปริมาณมาก

6.การปั๊มลายนูนและปั๊มลายยุบ

วิธีการทำงาน: ความร้อนและความดันสร้างลวดลายที่นูนขึ้น (ปั๊มลายนูน) หรือลึกเข้าไป (ปั๊มลายยุบ) บนผ้า

ข้อดี:

เพิ่มเนื้อสัมผัสและความรู้สึกพรีเมียม

คงทนและสง่างาม

ข้อเสีย:

จำกัดเฉพาะประเภทของผ้าบางชนิดเท่านั้น

มีราคาแพงกว่าเทคนิคอื่นๆ

1.png

7.การพิมพ์ด้วยวิธี Discharge

การทำงาน: ลบสีจากผ้าสีเข้มเพื่อสร้างลวดลายที่สว่างขึ้น มักใช้ร่วมกับหมึกที่ละลายน้ำได้

ข้อดี:

ลวดลายที่นุ่มและระบายอากาศได้ดี

เหมาะสำหรับเสื้อผ้าสีเข้ม

ข้อเสีย:

ทำงานได้เฉพาะกับผ้าธรรมชาติ เช่น ฝ้าย

ตัวเลือกสีมีจำกัด

8.การพิมพ์ฟอยล์

การทำงาน: เคลือบสารยึดเหนี่ยวลงบนผ้า จากนั้นนำฟอยล์โลหะมาประทับด้วยความร้อน

ข้อดี:

ผิวสัมผัสที่เงางามและเป็นมันสำหรับลุคที่โดดเด่น

ทนทานหากทำอย่างถูกต้อง

ข้อเสีย:

ต้องล้างด้วยความระมัดระวัง

อาจมีราคาแพง

9.การพิมพ์แบบ Puff

วิธีการทำงาน: หมึกพิเศษจะขยายตัวเมื่อโดนความร้อนเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่นูนขึ้นมา

ข้อดี:

ผิวสัมผัส 3D ที่ไม่เหมือนใคร

เหมาะสำหรับการออกแบบที่เด่นชัด

ข้อเสีย:

จำกัดเฉพาะสไตล์การออกแบบบางประเภท

อาจไม่ทนทานเท่าการพิมพ์แบบเรียบ

10.การพิมพ์ทั่วทั้งชิ้น

การทำงาน: การย้อมสีหรือการพิมพ์หน้าจอขนาดใหญ่ครอบคลุมเสื้อผ้าทั้งชิ้นด้วยดีไซน์

ข้อดี:

สร้างดีไซน์ที่เด่นและดึงดูดสายตา

เหมาะสำหรับลวดลายแบบกำหนดเอง

ข้อเสีย:

ราคาแพงและใช้เวลานาน

เหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อผ้าสังเคราะห์

11.การพิมพ์ด้วยหมึกน้ำ

การทำงาน: ใช้หมึกน้ำซึมเข้าสู่เนื้อผ้า ทำให้ได้ผิวสัมผัสที่นุ่ม

ข้อดี:

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสัมผัสได้ถึงความนุ่ม

เหมาะสำหรับการพิมพ์ผ้าเบาและระบายอากาศได้ดี

ข้อเสีย:

ทำงานได้ดีที่สุดบนเสื้อผ้าสีอ่อน

มีความสดใสของสีน้อยกว่าหมึกพลาสติซอล

12.การพิมพ์พลาสติซอล

หลักการทำงาน: หมึกที่ทำจากพลาสติกจะอยู่บนผ้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สดใส

ข้อดี:

หลากหลายและคงทน

เหมาะสำหรับผ้าหลายประเภท

ข้อเสีย:

อาจรู้สึกหนักบนผ้า

ไม่ค่อยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แต่ละเทคนิคการพิมพ์มีจุดเด่นเฉพาะตัว ทำให้เหมาะสมสำหรับการออกแบบ ผ้า และขนาดของคำสั่งที่แตกต่างกัน

2.png